เช็คเครดิตบูโรออนไลน์ในปี 2024 มีวิธีการอย่างไร
เช็คเครดิตบูโรถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะทำธุรกรรมทางการเงินอะไร ก็จะต้องได้รับการเช็คเครดิตบูโรก่อน โดยปัจจับนไม่ใช้เรื่องยากในการขอเพราะสามารถเช็คเครดิตบูโรผ่านมือถือเพื่อรับรู้สถานะบัญชีเครดิตบูโรในทันที อย่างคำแนะนำในการตรวจเช็คจากกระทู้เช็คเครดิตบูโรออนไลน์รู้ผลทันที pantip โดยในบทความนี้จะพามาดูว่าเครดิตบูโร คืออะไร เช็คเครดิตบูโรได้ที่ไหน
เครดิตบูโรคืออะไรเช็คเครดิตบูโรที่ไหนได้บ้าง
เครดิตบูโร คือ บริษัทข้อมูลเครดิตบูโรแห่งชาติ หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า national credit bureau ที่รวบรวมข้อมูลทางการเงิน ของบุคคลนั้น ๆ มีการใช้บริการสถาบันการเงินที่ไหนบ้าง นำผลมารวมกันและประมวลผลเป็น credit bauro เพื่อดูภาพรวมในการชำระหนี้ โดยการเรียกดูข้อมูลจะอยู่ภายใต้ขอบเขตที่ทางกฎหมายกำหนด และจะเปิดเผยข้อมูลเครดิตในแบบรายงานผล ซึ่งหากเจ้าของเครดิตต้องการรับรู้ สามารถทำแบบฟอร์มคำขอผ่านทางช่องทางระบบออนไลน์
เช็คเครดิตบูโรวิธีเช็คบูโรมีขั้นตอนอย่างไรผ่านทางออนไลน์ปี 2567
วิธีเช็คเครดิตบูโรด้วยตัวเองผ่านทางออนไลน์ทำได้ง่ายๆ เพียงมีแอพพลิเคชั่นธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเกียรตินาคินภัทร และธนาคารทหารไทยธนชาต โดยปัจจุบันยังไม่มีการเช็คเครดิตบูโรออนไลน์ฟรี มาดูข้อมูลในแต่ละธนาคารว่ามีรายละเอียดอย่างไร ดังนี้ สำหรับธนาคารกรุงไทยเช็คเครดิตบูโรได้ทางแอพ KrungThai NEXT ใช้วิธีการตรวจสอบเครดิตแบบสกอริ่ง รู้ผลภายใน 24 ชั่วโมง และธนาคารออมสิน วิธีเช็คบูโรผ่านแอพ mymo ตรวจสอบและรายงานข้อมูลเครดิตสกอริ่ง 24 ชั่วโมงรู้ผล ธนาคารเกียตินาคินภัทร ตรวจสอบข้อมูลเครดิตแบบสกอริ่ง รับผลเครดิตทันที และธนาคารทหารไทยธนชาต บริการตรวจเครดิตรู้ผลภายใน 3 วันทำการ
เช็คเครดิตบูโรจัดเก็บผลไว้กี่ปี
สำหรับข้อมูลติดเครดิตบูโรกี่ปีหายนั้น ทางเจ้าของเมื่อเช็คเครดิตบูโรและรู้ว่าติด สามารถรู้ว่าติดสามารถเริ่มทยอยจ่ายชำระหนี้ เพื่อให้มีข้อมูลใหม่เข้ามาว่าสถานะจ่ายแล้ว เมื่อจ่ายหมดแล้วข้อมูลจะยังไม่หายไป โดยบริษัทข้อมูลเครดิตจะทำการลบข้อมูลเมื่อครบกำหนด 3 ปี บริษัทถึงล้างเครดิตบูโรออกไปจากฐานเครดิตบูโรโดยอัตโนมัติ
จะเห็นได้ว่าการเช็คเครดิตบูโรนั้นสำคัญกับตัวเรามาก เพราะเป็นข้อมูลที่แสดงสถานะทางการเงิน แต่ถึงอย่างไรก็ตามเมื่อมีภาระทางทางเงินที่ต้องจ่ายไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อเงินกู้ หรือสินเชื่อบัตรเครดิต พยายามอย่าผิดนัดเพียงงวดเดียว หรือขาดการชำระเป็นเวลานาน เพราะแสดงให้เห็นถึงการไม่มีวินัย และหากไปขอสินเชื่อทางการเงินอีกครั้ง แน่นอนว่าการอนุมัติย่อมยากกว่าเดิม เพราะสถาบันการเงินจะเห็นข้อมูลทางเครดิตว่าเคยผิดนัดชำระไม่จ่ายหนี้มากก่อน
